ประวัติราชวิทยาลัยฯ
ประวัติราชวิทยาลัยฯประวัติราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
ใน ปี พ.ศ.2533 แพทยสภาเห็นสมควรให้สมาคมแพทย์สาขาต่างๆจัดตั้งเป็นวิทยาลัยและดำเนินการตาม ข้อบังคับของแพทยสภาว่าด้วยวิทยาลัยทางสมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยซึ่งมี ศาสตราจารย์นายแพทย์ประจักษ์ ประจักษ์เวช เป็นนายกสมาคม ได้มอบหมายให้ศาสตราจารย์นายแพทย์เทียม หล่อเทียนทอง และรองศาสตราจารย์นายแพทย์ ม.ร.ว. พรสวัสดิ์ นันทวันเป็นผู้ดำเนินการประสานงาน และจัดทำร่างข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วย วิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2535 ได้มีการแต่งตั้งผู้บริหารวิทยาลัยเฉพาะกาล ทำหน้าที่บริหารเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง จนกระทั่งวันที่ 21 เมษายน 2535 จึงได้รับอนุมัติจากแพทยสภาและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ประวัติราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
The Royal College of Ophthalmologists of Thailand (RCOPT)
สมาคมจักษุแพทย์แห่ง ประเทศไทย และราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย มีจุดกำเนิดและขั้นตอนความเป็นมาที่สำคัญ ควรค่าแก่การบันทึกไว้ให้จักษุแพทย์รุ่นหลัง ได้ทราบถึงเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งตามลำดับ ดังนี้
- สมาคมจักษุ โสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย ก่อตั้งวันที่ 20 กรกฎาคม 2499
- สมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ก่อตั้งวันที่ 22 มิถุนายน 2521
- วิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ก่อตั้งวันที่ 21 มิถุนายน 2535
- ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ก่อตั้งวันที่ 12 มิถุนายน 2538
ใน ปี พ.ศ. 2498 แพทย์ที่ปฏิบัติงานด้าน ตา หู คอ จมูก ได้ร่วมประชุมกันเพื่อร่างระเบียบข้อบังคับในการจัดตั้งสมาคมขึ้น นับว่าเป็นสมาคมแพทย์เฉพาะทางสมาคมแรกของประเทศไทย ซึ่งพวกเราที่เป็นจักษุแพทย์รุ่นหลังรู้สึกภาคภูมิใจในวิสัยทัศน์ของท่าน ปรมาจารย์เหล่านั้น ท่านอาจารย์ น.อ.สดับ ธีระบุตร ผู้ทำหน้าที่เป็นเลขานุการของการประชุมได้ดำเนินการจดทะเบียน โดยได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมจากสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2499โดยมี พันโทหลวงประจักษ์ เวชสิทธิ์ เป็นนายกสมาคมคนแรกกิจกรรมของสมาคมดำเนินมาด้วยดีมีจำนวนสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิชาการเฉพาะทางทำให้จักษุแพทย์ และแพทย์ทางหู คอ จมูก มีการทำงานทั้งทางด้านการรักษาพยาบาล และด้านวิชาการแตกต่างแยกจากกันอย่างชัดเจน จึงได้แยกสมาคมออกเป็นสองสมาคม โดยมีการแยกไปตั้งเป็นสมาคมโสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทยส่วนทางจักษุแพทย์โดยท่านอาจารย์นิสิต ลีละวงศ์ ได้เป็นผู้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อสมาคมเดิมเป็นสมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย มีท่านอาจารย์กอบชัย พรหมินทะโรจน์เป็นนายกสมาคมคนแรก โดยจดทะเบียน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2521
ตราสัญลักษณ์ของสมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
|
ใน ปี พ.ศ.2533 แพทยสภาเห็นสมควรให้สมาคมแพทย์สาขาต่างๆจัดตั้งเป็นวิทยาลัยและดำเนินการตาม ข้อบังคับของแพทยสภาว่าด้วยวิทยาลัยทางสมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยซึ่งมี ศาสตราจารย์นายแพทย์ประจักษ์ ประจักษ์เวช เป็นนายกสมาคม ได้มอบหมายให้ศาสตราจารย์นายแพทย์เทียม หล่อเทียนทอง และรองศาสตราจารย์นายแพทย์ ม.ร.ว. พรสวัสดิ์ นันทวันเป็นผู้ดำเนินการประสานงาน และจัดทำร่างข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วย วิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2535 ได้มีการแต่งตั้งผู้บริหารวิทยาลัยเฉพาะกาล ทำหน้าที่บริหารเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง จนกระทั่งวันที่ 21 เมษายน 2535 จึงได้รับอนุมัติจากแพทยสภาและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ในครั้งนั้นวิทยาลัยมีสมาชิกก่อตั้งจำนวน 201 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2535 ได้มีการเลือกตั้งประธานวิทยาลัยพร้อมทั้งกรรมการบริหารในการประชุมใหญ่ สามัญประจำปี ที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คณะผู้บริหารวิทยาลัยเฉพาะกาลให้เป็น คณะกรรมการผู้บริหารวิทยาลัยต่อไป โดยมีวาระ 2 ปี และในปี 2537 คณะกรรมการชุดนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกโดยได้รับการเลือกตั้งให้ บริหารวิทยาลัย ต่ออีกหนึ่งวาระเมื่อก่อตั้งวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยขึ้นแล้ว ได้มีมติที่สำคัญในการประชุมใหญ่สมาชิกสามัญประจำปีคือ ให้คงสมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยไว้ โดยสมาชิกส่วนใหญ่เห็นว่าวิทยาลัยนั้นดำเนินการภายใต้การดูแลของแพทยสภา ซึ่งเปรียบเหมือนสถาบันแม่ ของวิทยาลัยต่างๆ มีกฎหมายรองรับซึ่งเป็นประโยชน์ในการดำเนินงานและติดต่อในทางราชการโดยเฉพาะ ในเรื่อง การฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน และการสอบเพื่อหนังสืออนุมัติและวุฒิบัตร
ส่วนสมาคมจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยนั้นมีเกียรติประวัติอันยาวนานน่าภาคภูมิ เป็นเสมือนมรดกของจักษุแพทย์ทุกคน และยังมีลักษณะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย สามารถทำนิติกรรมได้ด้วยตนเอง ต่างจากวิทยาลัยซึ่งต้องผ่านทางแพทยสภาในปี พ.ศ.2537 คณะกรรมการของราชวิทยาลัย และวิทยาลัยทางการแพทย์เฉพาะทางต่างๆได้ร่วมกันปรึกษาหารือเพื่อก่อตั้ง กลุ่มสถาบันฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางแห่งประเทศไทย (Consortium of Medical Specialties Training Institution of Thailand) ในขั้นแรกประกอบด้วย 9 สถาบัน คือ
- ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย
- ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
- ราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทย
- ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
- ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
- วิทยาลัยรังสีแพทย์แห่งประเทศไทย
- วิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
- วิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์แห่งประเทศไทย
- วิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย
กลุ่ม สถาบันฯ โดยศาสตราจารย์นายแพทย์อรุณ เผ่าสวัสดิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานกลุ่ม มีวัตถุประสงค์หลักที่จะต้องดำเนินการ 2 ประการคือ
- จัด กิจกรรมต่างๆ และจัดประชุมทางวิชาการครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกัน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปีกาญจนาภิเษก ในปี พ.ศ.2539
- จัด สร้างอาคารเป็นที่ทำการถาวรของกลุ่มสถาบันฯ โดยมีแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เข้ามาร่วมกลุ่มและกิจการนี้ด้วย แพทยสมาคมฯ ได้อนุมัติให้สร้างอาคารสำนักงานและสถานที่จัดการประชุมของกลุ่มสถาบันฯ บนที่ดินของแพทยสมาคมฯ
เพื่อ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว กลุ่มสถาบันฯ ได้กราบบังคมทูลเชิญและได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร ทรงรับเป็นองค์ประธานจัดสร้างอาคาร ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามว่า อาคารเฉลิมพระบารมี ๕๐ ปี อาคารนี้เป็นอาคารที่ทันสมัยสูง 12 ชั้น ค่าก่อสร้างและค่าดำเนินการประมาณ 440 ล้านบาท สร้างบนที่ดิน 4 ไร่ ของแพทยสมาคมฯตั้งอยู่ที่ซอยศูนย์วิจัย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ ซึ่งต่อมาเมื่อวันอังคารที่ 18 มีนาคม 2540 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมาร ได้เสด็จแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงเปิดอาคารเฉลิมพระ บารมี ๕๐ปี
เนื่องด้วยสถานภาพของสถาบันต่างๆ ในกลุ่มยังมีความแตกต่างกันกล่าวคือ ประกอบด้วย 5 ราชวิทยาลัย และ 4 วิทยาลัย ทั้งที่แต่ละสถาบันมีกรรมการ และสมาชิกเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ เช่นเดียวกัน มีกิจกรรมทางด้านวิชาการ การให้บริการรักษาแก่ประชาชนที่เจ็บป่วยและยังเป็นแพทย์อาสารับ ใช้สนองพระมหากรุณาธิคุณตามเสด็จเพื่อให้การดูและรักษาผู้เจ็บป่วยในท้อง ถิ่นต่างๆ ที่เสด็จแปรพระราชฐานตลอดมา จึงเห็นสมควรกราบบังคมทูลพระกรุณา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงรับให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาปนาวิทยาลัย 4 แห่ง ให้เป็นราชวิทยาลัย สำหรับวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยนั้น ได้มอบหมายให้รองศาสตราจารย์นายแพทย์ ม.ร.ว.พรสวัสดิ์ นันทวัน เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาปนาเป็นราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2538 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้แก่จักษุ แพทย์ ทั้งปวงราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย มีชื่อย่อว่า ร.จ.ท.ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า The Royal College of Ophthalmologists of Thailand มีชื่อย่อว่าRCOPTโดยคณะกรรมการบริหารราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ชุดแรกยังคงเป็นกรรมการชุดเดิมซึ่งก็คือกรรมการชุดแรกของวิทยาลัยจักษุแพทย์ แห่งประเทศไทย ต่อมาในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2541 คณะกรรมการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยและคณะกรรมการสมาคมจักษุแพทย์ แห่งประเทศไทย ได้มีการประชุมและลงมติที่มีความสำคัญคือให้คณะกรรมการทั้งสองชุดเป็นบุคคล เดียวกัน เพื่อให้เกิดความสอดคล้องในการดำเนินงาน ขจัดข้อแตกต่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในด้านนโยบายและการปฏิบัติ
ตราสัญลักษณ์เครื่องหมายประจำราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
เครื่อง หมายประจำราชวิทยาลัยมีรูปทรงคล้ายดวงตา มีอักษรย่อ ร.จ.ท. อยู่ตรงกลาง ลักษณะเป็นทรงกลมเช่นเดียวกับกระจกตา (สีเงิน) ด้านบนมีตรามหามงกุฎ และเลข ๙ แสดงถึงการได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โปรดเกล้าให้เป็นราชวิทยาลัย (สีทอง) ด้านล่างมีคำว่า ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย (พื้นสีชมพูอ่อน) และ พ.ศ. 2538 (พื้นสีชมพูเข้ม) ซึ่งเป็นปีที่ก่อตั้งในปัจจุบัน (พ.ศ.2548) ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยได้ปฏิบัติภาระหน้าที่ และดำเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีคณะกรรมการมาแล้วรวม 6 ชุด ซึ่งมีประธานราชวิทยาลัยชุดต่างๆดังนี้